วันที่ 21 มกราคม นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ประกาศขยายระยะเวลา Work from Home (WFH) ถึงวันที่ 24 มกราคม 2568 เพื่อช่วยลดการเดินทางและลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ที่มีความหนาแน่นเกินมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ขยายเวลา WFH ถึง 24 มกราคม
เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ยังอยู่ในระดับที่ไม่ปลอดภัย กทม. จึงตัดสินใจขยายระยะเวลา WFH จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 20-21 มกราคม ไปจนถึงวันที่ 24 มกราคม หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น โดยการขยายเวลา WFH นี้เป็นการลดการเดินทางและการใช้งานรถยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของฝุ่นในเมืองกรุงเทพฯ
สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ
ในการติดตามปริมาณฝุ่นละออง PM2,5 พบว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม ในช่วงเวลา 07:00 น. ฝุ่นเกินมาตรฐานในทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ และในวันที่ 21 มกราคม สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น โดยมีดัชนีคุณภาพอากาศในระดับสีส้มใน 48 เขต และระดับสีแดงใน 2 เขต
จากการพยากรณ์ระหว่างวันที่ 22-24 มกราคม พบว่า
- มีเขตที่ค่าฝุ่นเข้าเกณฑ์สีส้ม 35 เขตขึ้นไป
- อัตราการระบายอากาศไม่ดี โดยอัตราอยู่ระหว่าง 875 – 2,250 ตารางเมตรต่อวินาที
- คาดว่าจะมีทิศทางลมตะวันออกเฉียงเหนือ
ผลกระทบจากสภาวะอากาศนิ่ง
สภาพอากาศนิ่งและอากาศเย็นที่ปกคลุมตอนเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้มลพิษทางอากาศยังคงสะสมในกรุงเทพฯ ซึ่งทำให้คุณภาพอากาศไม่ดีต่อสุขภาพ โดยคาดว่าหลังวันที่ 25 มกราคม สถานการณ์จะดีขึ้นเนื่องจากอัตราการระบายอากาศที่ดีขึ้น
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องออกจากบ้าน
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถทำงานจากที่บ้านหรือจำเป็นต้องออกจากบ้าน ควรระมัดระวังและดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ คนชรา และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน PM2,5 และจำกัดการอยู่นอกอาคาร รวมถึงงดกิจกรรมกลางแจ้งที่ใช้แรงมากหรือเป็นเวลานาน
หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือระคายเคืองตา ควรรีบไปพบแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำ นอกจากนี้สามารถรับบริการที่คลินิกมลพิษทางอากาศที่เปิดให้บริการในโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ
การลดมลพิษและร่วมมือกับ กทม.
การเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งมวลชนสามารถช่วยลดการปล่อยฝุ่นจากยานพาหนะได้มาก กทม. ยังขอให้ประชาชนช่วยปรับพฤติกรรมโดยหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่สร้างฝุ่น เช่น การเผาขยะ การจุดธูป และการใช้งานรถยนต์ที่ไม่สามารถรักษามาตรฐานเครื่องยนต์ได้
สถิติความร่วมมือ WFH
จนถึงปัจจุบัน มีหน่วยงาน 278 แห่งร่วมมือกับ กทม. ในการดำเนินการ WFH เพื่อลดฝุ่นจากการเดินทาง โดยมีผู้เข้าร่วมแล้ว 96,307 คน คิดเป็น 48% จากเป้าหมาย 200,000 คน
การปิดโรงเรียน
จากสถานการณ์ฝุ่น PM2,5 ที่เกินมาตรฐาน กทม. ได้ประกาศปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของ กทม. ทั้งหมด 21 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 21 มกราคม เวลา 11:30 น.) เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน
การช่วยลดมลพิษ
นอกจากการร่วมมือกับ กทม. ผ่านการ WFH ยังมีการร่วมมือในการลดมลพิษจากการใช้งานรถยนต์ โดยมีการขึ้นทะเบียนรถใน Green List แล้วจำนวน 31,041 คัน และการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง/ไส้กรองของรถยนต์มีจำนวน 229,711 คัน ซึ่งช่วยลดฝุ่น PM2.5 ได้ 12% จากภาคการจราจร
การดำเนินการเหล่านี้ถือเป็นการร่วมมือเพื่อรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในกรุงเทพฯ พร้อมทั้งลดมลพิษจากทุกแหล่งกำเนิดเพื่อให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นในอนาคต