บทนำ
รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช นายกสมาคมภูมิภาคศึกษา และอาจารย์สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคในหัวข้อ “1 ขวานทอง + 2 ถุงทอง + 4 แสงทอง” เพื่อยกระดับพลังอำนาจของประเทศไทยในเวทีภูมิภาคและรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญในปัจจุบัน
1 ขวานทอง: การปกป้องอธิปไตยของชาติ
ความสำคัญของพื้นที่ขวานทอง
“ขวานทอง” หมายถึงเขตอาณาเขตทางบกและทางทะเลของประเทศไทย การรักษาและปกป้องพื้นที่เหล่านี้เป็นหัวใจหลักของยุทธศาสตร์เชิงรุก โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำอธิปไตย เช่น:
- ปัญหาการตั้งฐานทหารในพื้นที่ชายแดน
- การควบคุมเกาะสำคัญ เช่น เกาะกูด
การดำเนินการที่จำเป็น
รัฐบาลควรเตรียมแผนและมาตรการอย่างเป็นระบบ เช่น การผลักดันกองกำลังต่างชาติที่ล้ำแดนและการปกป้องพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีความอ่อนไหว
2 ถุงทอง: ความมั่งคั่งทางทะเลของประเทศไทย
ศักยภาพทางเศรษฐกิจในทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
- ทะเลอ่าวไทย: แหล่งทรัพยากรทางทะเลที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์
- ทะเลอันดามัน: จุดเชื่อมต่อสำคัญในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
แนวทางการพัฒนา
- เสริมสร้างบทบาทของไทยในเขตทะเลอันดามันและอ่าวไทย
- ขยายอิทธิพลไปยังจุดบรรจบทางทะเลระหว่างเมียนมา อินเดีย และอินโดนีเซีย
4 แสงทอง: การแผ่อำนาจ 4 ทิศเพื่อเสริมสร้างอิทธิพลไทย
แสงทองทิศเหนือ
- ครอบคลุมพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและรัฐฉาน
- แก้ปัญหายาเสพติดและความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดน
แสงทองทิศใต้
- แผ่อิทธิพลไปยังตอนเหนือของมาเลเซียและชายฝั่งอันดามัน
- เชื่อมต่อวัฒนธรรมและทรัพยากรทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน
แสงทองทิศตะวันออก
- ขยายบทบาทในเขตชายแดนกัมพูชาและแม่น้ำโขง
- เสริมสร้างการพัฒนาในพื้นที่ยุทธศาสตร์เช่น แขวงไชยะบุรี
แสงทองทิศตะวันตก
- เพิ่มบทบาทในแนวแม่น้ำสาละวินและแม่น้ำเมย
- สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจแม่สอด-เมียวดี
ข้อสรุปและการเรียกร้องเชิงยุทธศาสตร์
การดำเนินยุทธศาสตร์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาอธิปไตยของชาติ แต่ยังเสริมสร้างบทบาทของไทยในเวทีภูมิภาค ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นมหาอำนาจระดับกลางที่มีอิทธิพลเชิงรุกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้